เงินเฟ้อแบบนี้ ลงทุนอะไรดี ?

เงินเฟ้อ
สำหรับภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้กับวิกฤตเงินเฟ้อ” ที่โลกกำลังต้องรับมือ และประเทศไทยเองก็เป็นประเทศนึงที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้อย่างหนักหนารุนแรงไม่แพ้ใคร มีการประเมินกันว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยเรานั้น เฉลี่ยทั้งปี 2565 จะสูงขึ้นถึง 5.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีเลยทีเดียว

หลายๆ คนท่านอาจสงสัยว่า “เงินเฟ้อ” มันส่งผลกับชีวิตเราอย่างไร ก็ขอยกตัวอย่างกันสั้นๆ ให้เห็นภาพว่า หาก “รายได้” เราเท่าเดิม แต่ “รายจ่าย” มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเราจะพบว่าค่าครองชีพเราสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แบบไม่จำเป็นต้องเปิดสถิติดูเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าอาหาร สินค้าอุปโภค บริโภค สิ่งของจำเป็นต่างๆ ล้วนแต่แพงขี้น แต่อนิจจังรายจ่ายเราเท่าเดิม !!!

เมื่อค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่รายได้เราไม่เพิ่มขึ้นหรือเพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ เท่ากับว่าเรากำลังจนลงๆ ทุกวันเพราะมูลค่าของเงินที่เราถืออยู่นั้นค่อยๆ น้อยลงไปทุกวัน ทำให้หลายๆ คนเริ่มมองหา “การลงทุน” ที่พอจะทำผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฟ้อได้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ “แพ้เงินเฟ้อ”

แพ้เงินเฟ้อ หมายถึงความว่ายังไง ??

ยกตัวอย่าง หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ต่อปี แล้วเรามีเงินเก็บอยู่ 100,000 บาท เราเป็นคนขยัน รู้จักอดออม นำเงินที่มีฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร ได้ดอกเบี้ยปีละ 0.25% เท่ากับว่าเมื่อครบ 1 ปีเราจะมีเงิน 100,250 บาท (รู้สึกรวยไม่ไหววววว) เรามีเงินเพิ่มขึ้น แต่ข้าวของกลับขึ้นราคาตามอัตราเงินเฟ้อ ถึง 3% ทำให้ 1 ปีผ่านไปเราซื้อของได้น้อยลง ทั้งๆ ที่เงินเราเพิ่มขึ้น

แล้วมีการลงทุนอะไรบ้างล่ะ ? ที่จะทำให้เงินของเรางอกเงย “ชนะเงินเฟ้อ” ได้

——————————————————–

ข้อดี-ข้อเสีย อัตราผลตอบแทน การลงทุนประเภทต่างๆ

บัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ – ฝากประจำ

  • แน่นอนว่าเป็นอะไรที่แพ้ตั้งแต่ยังไงลงแข่ง เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบันนั้น แบบออมทรัพย์จะอยู่ที่ประมาณ 0.25% ต่อปี ส่วนฝากประจำเองนั้นก็อยู่ที่ประมาณ 0.40-0.95%
  • แต่ในส่วนของบัญชีออมทรัพย์นั้น บางธนาคารมีดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีออนไลน์ โดยมีดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2% ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
  • ซึ่งผลตอบแทนบัญชีประเภทนี้ก็ยังถือว่าน้อยกว่าการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออยู่ดี แต่มีข้อดีคือความเสี่ยงต่ำมาก ทำให้เหมาะสำหรับเป็นบัญชีที่ใช้ในการหมุนเวียนเงินที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตเท่านั้น

ทองคำ

  • การลงทุนในทอง ขึ้นชื่อว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดประเภทนึงในช่วงเงินเฟ้อ เพราะในช่วงอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองมักจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม อีกทั้งยังเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ทำให้มีโอกาสที่จะราคาสูงขึ้นหากถือไว้ในระยะยาว
  • แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการเก็บรักษา เพราะทองนั้นไม่ได้มีระบบกรรมสิทธิ์เจ้าของ มีโอกาสที่จะถูกขโมยไปได้

กองทุนรวม

  • คือการรวบรวมเงินของนักลงทุน นำมาลงทุนตามนโยบายที่กองทุนรวมนั้นๆ กำหนดไว้ โดยมี “ผู้จัดการกองทุน” ที่เป็นมืออาชีพช่วยบริหารจัดการเงินของกองทุน ให้เราอุ่นใจว่าอย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าเราไปลงทุนเองแบบไม่มีความรู้
  • จุดเด่นของกองทุนรวม คือมีเงินน้อยก็สามารถลงทุนได้ แถมยังมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ให้เราเลือกสรรว่าอยากให้เขานำเงินของเราไม่ลงทุนกับอะไร มีทั้งตราสารหนี้ หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และสินทรัพย์อื่นๆ
  • โดยค่าเฉลี่ยผลตอบแทนกองทุนรวมส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ที่ราวๆ 8-10% ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อ
  • แต่การลงทุนประเภทนี้ก็มีข้อควรระวัง เนื่องจากกองทุนรวมนั้นเป็นการนำเงินของเราไปลงทุน มิใช่ “เงินฝาก” ทำให้มีโอกาสที่จะขาดทุนอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามค่าเฉลี่ยย้อนหลัง มากกว่าที่จะหวังได้ผลตอบแทนจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ

หุ้น 

  • เรามักจะได้ยินหลายๆ คนเตือนกันว่า “อย่าไปเล่นเลยหุ้น มันเสี่ยงงงง” 
  • แต่จริงๆ แล้วทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยงกันทั้งนั้น หรือแม้กระทั่งการ “ไม่ลงทุน” ก็ถือว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน สำคัญที่ว่าเรามีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนประเภทนั้นๆ มากน้อยขนาดไหน
  • การลงทุนในหุ้นเองนั้น เป็นการลงทุนที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย คุ้นหูกันดี สามารถสร้างผลตอนแทนให้เราได้ทั้งจาก “ส่วนต่าง” กำไรจากการซื้อขายหุ้น หรือ “เงินปันผล”
  • หากคุณเองเป็นคนหนึ่งที่สนใจและศึกษาเรื่องของการลงทุนหุ้น มีพื้นฐานการลงทุน การวิเคราะห์ตลาด ก็มีโอกาสที่จะทำผลตอบแทนได้ถึง 10-20% ต่อปีหรือมากกว่า แล้วแต่ความสามารถในการลงทุนของแต่ละคน

คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)

  • นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักการลงทุนสุดฮิตแห่งยุค กับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง “คริปโต”
  • เป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้เราได้มากมายหลายเท่าตัว แต่ในขณะเดี่ยวกันก็สามารถสร้างหายนะทางการเงินให้กับผู้ลงทุนได้เช่นกัน หากไม่ระวัง ไม่มีความรู้ในการลงทุนที่มากพอ โดยเห็นได้ชัดจากช่วงที่ผู้เขียนกำลังเขียนบทความนี้ (มิถุนายน 2665)  ว่าในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตอยู่ในช่วงขาลงแบบรุนแรงเช่นนี้ นักลงทุนแต่ละคนมีวิธีการรับมืออย่างไร
  • ซึ่งในส่วนของผลตอบแทนการลงทุนในคริปโตนั้น จัดว่ามีช่วง Range ที่กว้างมาก ตั้งแต่ขาดทุนย่อยยับ ไปจนถึงหลับไปตื่นนึง พอลืมตามาแล้วกลายเป็นเศรษฐีไปเลย
  • แน่นอนว่าการลงทุนที่มีโอกาสผลตอบแทนสูงเช่นนี้ มักมีความเสี่ยงที่สูงมากตามมาเช่นกัน ดังประโยคที่ว่า High Risk High Return เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังสนใจลงทุนในคริปโต ก็อยากให้บริหารจัดการพอร์ตการลงทุน บริหารความเสี่ยงกันให้ดีๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

อสังหาริมทรัพย์

  • การลงทุนในสิ่งที่เรียกว่า ปัจจัย 4 ที่ดูเหมือนจะความเสี่ยงต่ำ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ใครๆ ก็ต้องมีไว้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเองหรือเช่าอาศัย แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่สภาพคล่องในการซื้อขาย ว่าด้วยรายละเอียดต่างๆ ของตัวสินทรัพย์เอง และเอกสารสำหรับการดำเนินการ ต้องใช้เวลาในการหาทรัพย์ในทำเลที่ต้องการ และที่สำคัญยังต้องมี “เงินทุน” ที่สูงพอสมควรอีกด้วย

ในส่วนของการลงทุนอสังหาฯ ที่นิยมกันนั้น ก็จะมีกันอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ ซื้อมาขายไป (Flip) และ ซื้อมาปล่อยเช่า (Holding)

ซื้อมาขายไป (Flip)

  • เป็นการลงทุนด้วยหลักการง่ายๆ ด้วยการ “เก็งกำไร” ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ มีมูลค่าเท่าไหร่ และเราจะเพิ่มมูลค่าให้ทรัพย์นั้นๆ ได้กี่เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาสั้นๆ
  • หากเป็นนักลงทุนที่เจนจัดในวงการ ก็มักจะมีระยะเวลาถือครองที่สั้นมาก ใช้เวลาเพียงแค่หลักเดือนเท่านั้นในการขายทรัพย์นั้นๆ ออกเพื่อทำกำไร ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่เราสามารถทำได้ ตั้งแต่การรับซื้อทรัพย์ราคาถูกกว่าตลาด และนำออกขายโดยทันทีในราคาที่สูงขึ้น หรือการซื้อทรัพย์ที่ดูเก่า ดูโทรม นำมาแต่งตัวให้ใหม่ มาตกแต่งให้สวยงามเพื่อเพิ่มมูลค่า ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมทำกันไม่น้อย

ถือยาว & ปล่อยเช่า (Holding)

  • เป็นการลงทุนแบบเก็งกำไรราคาอสังหาฯ แบบระยะยาว เพราะเล็งเห็นว่าราคาของทรัพย์นั้นๆ จะมีมูลค่าที่สูงขึ้นในอนาคต
  • ข้อดีของการลงทุนประเภทนี้คือ ช่วงระยะเวลาที่เราถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ เราสามารถสร้างรายได้จากการ “ปล่อยเช่า” ได้ โดยค่าเฉลี่ยผลตอบแทนจากค่าเช่าต่อราคาอสังหาฯ นั้นๆ หรือที่เราเรียนกกันว่า Yield ควรจะอยู่ที่ประมาณ 5-7%
  • และเมื่อระยะเวลาผ่านไป มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่เราถือครองนั้นสูงขึ้นตามที่เราคาดการณ์แล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่เราสามารถขายเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างได้นั่นเอง แต่ก็มีความเสี่ยงในเรื่องของ “ราคาขาย” หากว่าเวลาผ่านไปแล้ว ทำเลที่เราถือครองทรัพย์อยู่นั่นมีมูลค่าลดลง ทำให้นอกจากจะขายไม่ได้กำไรแล้ว อาจจะเจอปัญหา “ขายไม่ออก” ตามมาอีกด้วย
  • ทั้งนี้ การลงทุนประเภทนี้ผู้ลงทุนต้องมีวินัยทางการเงินในการบริการค่าใช้จ่ายให้ดี เพราะมีค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ อยู่มาก ทั้งค่าบำรุงรักษา ค่าส่วนกลาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คาดเดาไม่ได้

หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่า “โหหหห อยากลงทุนอสังหาฯ บ้างจัง แต่คงเป็นไปไม่ได้” คิดว่าเราต้องรวยก่อน ถึงจะเข้าวงการมาเป็นนักลงทุนอสังหาฯ ได้ ต้องมีเงินทุนหลายสิบล้าน หรือหลักร้อยล้านขึ้นไป แต่ความจริงแล้วมันไม่จำเป็นเลย เพราะคุณสามารถลงทุนได้แม้มีเงินทุนแค่หลักแสนเพียงเท่านั้น ด้วยการลงทุน จำนอง-ขายฝาก

ลงทุน “จำนอง” และ “ขายฝาก”

  • เป็นการลงทุนที่เรานำเงินมาลงทุนโดยการให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ผู้นำทรัพย์มาจำนอง หรือ ขายฝาก กับเราเพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน โดยเจ้าของทรัพย์จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับเราเป็นจำนวน 15% ต่อปี
  • นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเรามีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากผู้จำนอง-ขายฝาก ไม่นำเงินต้นมาไถ่ถอนตามกำหนด เราก็ยังสามารถนำทรัพย์นั้นๆ ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชดเชยส่วนของเงินต้นที่ลงทุนไปอีกด้วย
  • โดยในส่วนของรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ บทความและข่าวสาร – Property for Cash

บทสรุป

มีการลงทุนมากมายที่สามารถให้ตอบแทนมากพอที่เราจะ ชนะเงินเฟ้อ ได้ เพียงแต่เราต้องเลือกให้ถูก เลือกให้ดี เลือกการลงทุนประเภทที่เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญ หรือหากเป็นมือใหม่ ก็เลือกให้เหมาะกับความชอบและความถนัดของเรา เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทั้งนี้ ทุกการลงทุนล้วนแต่มีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันไป หากคุณลงทุนด้วยความไม่รู้ ใช้อารมณ์ในการลงทุนมากกว่าเหตุผล ก็ไม่ต่างอะไรกับ “การพนัน” เพราะนั่นเปรียบเสมือนกับการที่เราเดิมพันเงินทุนกับความเชื่อที่เลื่อนลอย ไม่มีเหตุผลและหลักการอะไรมารองรับเลย

ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อก็มีแต่แนวโน้มจะค่อยๆ ปรับขึ้น เรามาเตรียมตัว เตรียมความพร้อมคอยรับมือให้ดี ด้วยช่องทางการลงทุนต่างๆ ให้เงินงอกเงย แล้วเราจะเอาชนะเงินเฟ้อไปได้ด้วยกัน ^-^

——————————————————–

สนใจลงทุนจำนอง-ขายฝาก ติดต่อเราได้ทาง

Line: @PropertyForCash
โทร : 083-067-7196

หรือลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ทาง
https://propertyforcash.co/นักลงทุน/

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ : https://propertyforcash.co/articles/
หรือ https://web.facebook.com/propertyforcashofficial/

แชร์บทความ

ข่าวสารบทความแนะนำ